วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557



ความขัดแย้งของการเมืองไทยในปัจจุบัน





โศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าในการพัฒนาประเทศของทุกชาติบนโลกกลมๆใบนี้ หากพินิจพิจารณาดีๆจะพบว่า ล้วนแล้วแต่บ่มเพาะมาจากอำนาจของกิเลสในจิตใจของมนุษย์ และถ้าสังเกตให้ดี เราจะพบว่าผู้จุดชนวนแห่งโศกนาฏกรรมนั้นมิใช่ประชาชนผู้หาเช้ากินค่ำ แต่หากชัดเจนที่สุดว่า มักจะเริ่มวี่แววของความโศกจากชนชั้นสูงที่เรียกตัวเองว่าชนชั้นศักดินา
 แม้โลกจะวิวัฒน์พัฒนาจนค่าของนาไม่สำคัญเท่าค่าของเงินแล้วก็ตาม แต่นัยยะโดยกว้างของศักดินาก็ยังคงครอบงำความคิด การกระทำ และคำพูดของชนชั้นศักดินาผู้มั่งมีให้เข้าใจว่าตนนี้แลคือผู้ยิ่งใหญ่ในบรรณพิภพนี้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย  พฤติการณ์เช่นนี้ปรากฏได้ทั่วไปในสังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมไทย และเกี่ยวโยงกันอย่างยิ่งกับความขัดแย้งของการเมืองไทยในปัจจุบัน
 นับตั้งแต่การเมืองไทยถูกสถาปนาขึ้น นักการเมืองนั้นนับได้ว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มคนของชนชั้น
ศักดินาที่ควบคุมอำนาจของประเทศเอาไว้ด้วยเกียรติยศ ชื่อเสียง ทรัพย์ศฤงคาร ไพร่พลพวกพ้องของตน หากนักการเมืองนั้นเป็นคนดีก็นับว่าเป็นชะตาดีของประเทศ แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามมากจนทำให้คิดว่าประเทศไทยช่างดวงแข็ง เพราะถ้าเป็นประเทศอื่นอาจ ชะตาขาดไปนานแล้ว  มันเป็นเช่นนี้มานมนานตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันราวกับนักการเมืองรุ่นพี่ปูแนวทางไว้ให้กับรุ่นน้องในการทำมาหากินบนหลังคนด้วยกัน

 ปัญหาของการเมืองไทยในปัจจุบันนั้นมีจุดเริ่มมาจากกิเลสของนักการเมืองเพียงไม่กี่คนที่หนาและหนักเกินกว่ามนุดมนาสามัญชนทั่วไป จนทำให้เกิดการคอรัปชั่น โกงกิน และบ่อนทำลายสถาบันกษัตริย์ที่ยากเกินการยอมรับของประชาชนไทยบางกลุ่ม ในช่วงรัฐบาลชุด นายทักษิณ ชินวัตร ผลที่ตามมาก็คือการออกมาแสดงจุดยืนและเจตนารมณ์ของประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศเพื่อขับไล่นายทักษิณออกจากตำแหน่ง ซึ่งแย้งกับประชาชนอีกกลุ่มที่ยังเชื่อในความสามารถของนายทักษิณที่แม้จะชั่วแต่ก็นับเป็นนักการเมืองผู้มีความสามารถคนหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
 ความขัดแย้งดูเหมือนจะจบสิ้นลงด้วยการยึดอำนาจทางการเมืองด้วยคณะรัฐประหาร เมื่อ
19 ก.ย.2549 ที่ปราศจากความรุนแรงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ไทย แต่ด้วยการผิดพลาดในการดำเนินการเคลียร์ปัญหาบ้านเมืองแบบไม่จบของรัฐบาลชุด พล.อ.สุรยุทธ์ จุฬานนท์ ทำให้รัฐบาลตัวแทนของนายทักษิณกลับมารับตำแหน่งต่อถึงสองสมัย นั่นคือ รัฐบาลชุดนายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลชุดนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
 สิ่งที่ตามมา คือ ประชาชนทั้งสองกลุ่มต้องออกมาแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองคนละขั้วเช่นเดิม และต้นเหตุในครั้งนี้ก็ดูเหมือนจะมาจากการทำงานอย่างครึ่งๆกลางๆของรัฐบาลชุด พล.อ.สุรยุทธ์
ความขัดแย้งดูเหมือนจะจบสิ้นอีกครั้งคำเมื่อคำพิพากษาของตุลาการตัดสินให้นายทักษิณมีความผิดจริง และนักการเมืองที่กระทำความผิดหลายคนต้องถูกสั่งห้ามลงเล่นการเมือง แต่...

นักการเมืองที่เลวก็เปรียบได้กับเด็กที่ถูกพ่อแม่ตามใจ จะเอาอะไรก็ต้องได้สมใจปรารถนา เมื่อไม่ได้ก็โวยวาย กราดเกรี้ยว คิดค้นหากลวิธีเพื่อให้ได้ดัง ใจฉัน และวิธีดังกล่าวนี้ก็ไม่มีวิธีใดเลยจะประจานบิดามารดาของตัวเองได้ดี และเรียกร้องให้ชาวบ้านหันมาเห็นใจได้ดีเท่ากับการปลุกปั่นกระแสโดยใช้สื่อมวลชนเป็นเครื่องมือ
ดูเหมือนนักการเมืองที่เลวนั้นจะรู้ว่าคนที่หันมาสนใจเค้านั้นอาจไม่ใช่เฉพาะเพียงคนรัก หากรวมถึงคนที่เกลียดชังตน ซึ่งนั่นน่าจะดีกว่าการถูกลืม จึงสรรหาสิ่งที่จะมาเป็นประเด็นให้ประชาชนสนใจและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเข้ามาแสวงหาลาภ ยศ สรรเสริญของตน
สิ่งที่เป็นประเด็นปัญหาหลักที่ถูกหยิบยกในขณะนี้ การแก้รัฐธรรมนูญ 

รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายหลักอันสูงสุดของประเทศ ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยนั้นมีการฉีกและเขียนรัฐธรรมนูญซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่มีฉบับใดที่ลงตัวเลยสักครั้ง โดยเฉพาะฉบับปัจจุบันซึ่งเป็นประเด็นร้อน
รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550” อาจเรียกได้ว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ เข้มกับนักการเมืองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย แม้จะมีการลงประชามติยอมรับจากประชาชนก็ตาม แต่ที่มาที่ย่อมไม่สวยเท่า รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนซึ่งประชาชนมีส่วนร่วมในการร่างโดยตรง  ซึ่งแท้จริงแล้วรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันอาจไม่มีข้อบกพร่องเลยก็เป็นได้ หากไม่กระทบกระเทือนผลประโยชน์ของนักการเมืองใหญ่น้อยในประเทศแห่งนี้ผู้มีนิสัยนิยมความเป็นใหญ่และจมไม่ลงอย่างเหลือหลาย 

สิ่งที่เกิดตามมา คือ การแตกแยกกันเป็นฝักฝ่ายของประชาชนตามความเห็นที่ต่างกันไปตามขั้วการเมือง ทำให้ประเทศอ่อนแอ ขาดความน่าเชื่อถือจากนานาประเทศ ซึ่งอาจเรียกได้ว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย


แต่ที่น่าสังเกต คือ แนวคิดของประชาชนในยุคสมัยนี้ดูเหมือนจะมีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น ผิดกับแนวคิดประนีประนอมต่อนักการเมืองของคนไทยในอดีตนั่นคือ
ไม่มีนักการเมืองที่ไหนไม่โกงกินหรอก แต่ยังไงก็ขอให้พ่อกินน้อยๆหน่อยก็แล้วกัน แล้วบริหารประเทศให้ฉันได้มีอยู่มีกินบ้างนะพ่อ 
ซึ่งฟังแล้วคลับคล้ายคลับคลากับคำปรารภของหญิงสาวที่มีต่อชายหนุ่มที่ว่า รักน้อยๆแต่รักนานๆนะที่รัก อย่างไรชอบกล
นี่อาจเป็นจุดที่น่าดีใจบ้างในความขัดแย้งดังกล่าวซึ่งหาได้ยากเต็มที